วันอังคารที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

บูชาเหรียญหลวงปู่รอด 1.5 ล้านบาท

เหรียญหลวงปู่รอดวัดบางน้ำวนค่านิยม๑.๕ล้าน

เหรียญหลวงปู่รอดวัดบางน้ำวน สภาพแบบนี้ค่านิยมเบาๆ เพียง ๑.๕ ล้านบาทเท่านั้น! : พระองค์ครู เรื่องและภาพ โดยไตรเทพ ไกรงู



หลวงปู่รอด ท่านเป็นพระเกจิอาจารย์ที่เก่งกล้าทางด้านวิทยาคมมาก ท่านได้สร้างวัตถุมงคลไว้หลายอย่างเช่น ตะกรุดโทน เหรียญหล่อ เหรียญปั๊มรุ่นแซยิด เหรียญหล่อพิมพ์พนมมือ เหรียญปั๊มพิมพ์เสมาอัลปาก้า เป็นต้น

ท่านเป็นชาวปทุมธานี มีเชื้อสายรามัญ ท่านเกิดเมื่อ พ.ศ.๒๔๖๐ โยมบิดาชื่อ ทองดี โยมมารดาชื่อ เกษร เมื่อตอนที่ท่านเด็กๆ ท่านมีร่างกายอ่อนแอขี้โรค บิดา-มารดา จึงได้นำท่านไปถวายเป็นบุตรบุญธรรมของพระอุปัชฌาย์แค วัดบางน้ำวน ซึ่งท่านเป็นพระเถระที่มีเชื้อสายรามัญ และเป็นที่เลื่อมใสศรัทธาของชาวรามัญในสมัยนั้น หลังจากที่บิดา-มารดาของหลวงปู่รอดได้ยกท่านให้แก่พระอุปัชฌาย์แคแล้ว ปรากฏว่าหลวงปู่รอดท่านก็เป็นเด็กที่เลี้ยงง่ายหายจากโรคภัยนานา พระอุปัชฌาย์แค จึงตั้งชื่อให้ท่านว่า "รอด" ตั้งแต่บัดนั้นมา

เมื่ออายุได้ ๑๒ ปี ก็ได้บรรพชาเป็นสามเณร อยู่ศึกษาเล่าเรียนกับพระอุปัชฌาย์แค วัดบางน้ำวน จนกระทั่งอายุครบ ๒๐ ปี จึงได้อุปสมบทที่วัดบางน้ำวน โดยมีพระอุปัชฌาย์แค เป็นพระอุปัชฌาย์ และได้รับฉายาว่า "พุทธสณฺโฑ"

หลังจากอุปสมบทแล้วก็ได้ปรนนิบัติรับใช้พระอุปัชฌาย์ และศึกษาวิทยาคมต่างๆ จากพระอุปัชฌาย์แค หลวงปู่รอด ท่านเป็นพระที่รักสงบมุ่งปฏิบัติอย่างเคร่งครัด วิชาที่ท่านเรียนกับพระอุปัชฌาย์แคก็คือ เมตตามหานิยม คงกระพันชาตรี วิชาทำธงไม่ให้ฝนตก และป้องกันฟ้าผ่า วิชาเสกของหนักให้เบาดั่งปุยนุ่น ฯลฯ นอกจากท่านจะเรียนวิทยาคมแล้ว ท่านก็ยังเรียนวิปัสสนากรรมฐานอีกด้วย จนเป็นที่ไว้ใจของพระอุปัชฌาย์ หลังจากที่พระอุปัชฌาย์แคมรณภาพลง ท่านก็ได้รับการนิมนต์จากชาวบ้านขอให้ท่านเป็นเจ้าอาวาสสืบแทน

ชาวบ้านเลื่อมใสศรัทธาต่อท่านเป็นทุนเดิมอยู่แล้วจึงมาช่วยกันบูรณปฏิสังขรณ์วัดวาอารามจนเจริญรุ่งเรืองมาจนทุกวันนี้ นอกจากจะพัฒนาวัดของท่านแล้วท่านยังช่วยเหลือวัดอื่นๆ อีกด้วย เรื่องของการศึกษาท่านก็ได้จัดให้มีการสอนพระปริยัติธรรม และสร้างโรงเรียนประชาบาลให้เด็กๆ ในแถบนั้นได้ศึกษาเล่าเรียนชื่อ "โรงเรียนรอดพิทยาคม" ใน พ.ศ.๒๔๓๙ ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาส วัดบางน้ำวน พ.ศ.๒๔๔๗ ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าคณะตำบลบางโทรัด พ.ศ.๒๔๕๒ ได้รับพระราชทานตราตั้งเป็นพระอุปัชฌาย์ พ.ศ.๒๔๘๒ ได้รับสมณศักดิ์เป็น พระครูชั้นประทวน และเป็นกรรมการศึกษา หลวงปู่รอดท่านมรณภาพลงใน พ.ศ.๒๔๘๘ สิริอายุได้ ๘๒ ปี พรรษาที่ ๖๒

สำหรับภาพพระองค์ครูฉบับนี้เป็น เหรียญหลวงปู่รอด วัดบางน้ำวน รุ่นแซยิด ค่านิยมประมาณ ๑.๕ ล้านบาท ของ นายอำนวย กลิ่นอยู่ นายกสมาคมคนพิการค้าสลาก ประเทศไทย ทั้งนี้เขาได้เช่าพระชุดหลัก ชุดที่ใครๆ อยากครอบครอง พระชุดเบญจภาคีตอนนี้ขาดแต่พระรอดเพียงองค์เดียวเท่านั้น ทั้งนี้เขากล้าพูดอย่างเต็มปากว่า

“เรื่องหลอกขายพระให้คนตาบอดอย่างผมแน่นอนที่สุดว่ามีคนพยายามเข้ามาหาเพื่อหลอกขายพระปลอมให้ผม แต่อย่างว่าแหละผมเลือกที่จะเล่นคนแท้ก่อนจึงเป็นเกราะป้องกันไม่ให้โดนหลอกให้เช่าพระปลอม ก่อนจะเช่าพระสักองค์ถ้าเป็นหลักแสนหลักล้านผมมีคนตาดีเซียนดีคอยดูให้ก่อน แต่ถ้าเป็นพระราคาไม่แพงแค่เลขาฯ ดูก็ตัดสินใจเช่าบูชาได้เลย”

 

วันจันทร์ที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

แผนที่วัดบางน้ำวน


จุดสังเกตุถ้ามาจาก กทม. เลยแยกบ้านแพร่วมาสัก 2 กม. ข้ามสะพานที่สองก็ชิดช้าย จะเจอป้ายบอกทาง เลี้ยวตามป้ายประมาณสามกิโลก็ถง

ถ้ามาจากสมุทรสงครามก็เลยวัดเกตุมประมาณ หนึ่ง กม. ก็ชิดช้ายแล้วกลับรถใต้สะพาน ขับตามป้ายประมาณสามกิโลเมตรเหมือนกัน

แนะนำมามาสักตีสี่นะครับจะได้ดูทั้งตอนหลับตาและลืมตาตอนกลางวัน แต่ถ้าจะมาเที่ยวงานก็เชิญได้เลยตอนเย็นแต่คนจะเยาะหน่อยเข้าไปใหว้ยาก แต่ในงานก็จะมีของขายทุกอย่าง ตอนนี้มีมหรสพคือหนังกลางแปลงและลิเก

รีบมาดูครับให้เห็นกับตาตัวเอง

สาธุ

วันพุธที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

บรรญากาศท่าน้ำวัดบางน้ำวน







วันก่อนห่วยออก ณ. วัดบางน้ำวน






พระหลับตาตอนกลางคืน





ชาวสมุทรสาคร ต่างเดินทางไปกราบไหว้บูชาพระพุทธรูปที่วัดบางน้ำวน อ.เมือง จ.สมุทรสาคร หลังมีข่าวลือว่า พระพุทธรูปองค์ดังกล่าวจะหลับตาในช่วงเวลากลางคืน
           


เมื่อวานนี้ (29 เมษายน) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากมีข่าวลือแพร่สะพัดเรื่องที่ชาวบ้านพบพระพุทธรูปหลับตาในเวลากลางคืน ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปที่วัดบางน้ำวน ต.บางโทรัด อ.เมือง จ.สมุทราสาคร ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธรูปองค์ดังกล่าว โดยพบว่าในช่วงเย็น ๆ จะมีชาวบ้านมายืนรอเป็นจำนวนมาก เพื่อมากราบไหว้บูชาพระพุทธรูปองค์ดังกล่าว โดยเป็นพระพุทธรูปขนาดใหญ่ มีสีทองทั้งองค์ พระเนตรทั้งสองข้างยังคงลืมขึ้นเหมือนพระพุทธรูปทั่ว ๆ ไป เมื่อเข้าไปพิจารณาใกล้ ๆ ที่ฐานล่างเขียนว่า พระโสพิศทศยานพุทธเจ้า และบริเวณด้านหน้าพระมีชาวบ้านนำดอกไม้ธูปเทียนไปกราบไหว้บูชากันไม่ขาดสาย

ทั้งนี้ ชาวบ้านบางส่วนได้ยืนรอเวลาช่วงพลบค่ำเพื่อจะรอดูว่าพระพุทธรูปองค์ดังกล่าวหลับตาจริงหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวได้วิเคราะห์ว่า จากมุมแสงที่ตกกระทบบนใบหน้าขององค์พระพุทธรูปราวกับว่า ท่านกำลังหลับตาจริง ๆ ทำให้ประชาชนที่พบเห็นด้วยตัวเองต่างรู้สึกว่า เป็นสิ่งอัศจรรย์ ไม่เคยพบเห็นที่ไหนมาก่อน

นอกจากนี้ ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ใกล้ ๆ วัดบางน้ำวนได้เล่าว่า เมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมา ได้มีชาวบ้านมาพบว่าพระพุทธรูปเหมือนจะหลับตาในช่วงกลางคืน และเมื่อข่าวแพร่สะพัดออกไป จึงทำให้ชาวบ้านจากต่างพื้นที่เดินทางมากราบไหว้พระพุทธรูปองค์ดังกล่าวเป็นจำนวนมาก






 

วัตถุมงคลของวัดบางน้ำวน

เหรียญหล่อหลวงปู่รอด วัดบางน้ำวน

 
 หลวงปู่รอด เป็นพระเกจิอาจารย์ชื่อดังแห่งลุ่มน้ำแม่กลอง มีประวัติเรื่องราวอภินิหารกล่าวขวัญกันมามากมาย ท่านได้จัดสร้างรูปเหมือน เครื่องรางของขลังที่โด่งดังมีราคาบูชากันหลักแสน หลักล้าน อาทิ "เหรียญหล่อรูปเหมือนแซยิด" เมื่อปี 2477 ปัจจุบันสภาพสวยเดิม คมชัดดูง่าย สนนราคาเล่นหลักแสนหลักล้าน "เหรียญหล่อโบราณ" ที่จัดสร้างมีทั้ง "พิมพ์ยืดและพิมพ์ ต้อ" ปกติจะหล่อเต็มเขียนว่า "งานแซยิด พุทฺธสัณโฑ พ.ศ. ๒๔๗๗" หลังเรียบ หูในตัว เททองหล่อด้วยเนื้อสำริดมีส่วนผสมของทองโบราณ เงินโบราณ เครื่องใช้สำริด และแผ่นยันต์แผ่นจาร และเหรียญปั๊มแซยิด ปี 2477 เหรียญหล่อพิมพ์สี่เหลี่ยมกรรมการ เหรียญหล่อพิมพ์สามเหลี่ยม ยกมือเดียว พนมมือ เหรียญหล่อพิมพ์แจกแม่ครัว เหรียญปั๊มเสมา อัลปาก้า

นอกจาก นั้นยังมีเครื่องรางของขลัง เช่น ชูชก ถือว่าเป็นต้นตำหรับเป็นตำนานที่ได้นำไม้ที่เป็นมงคลมาแกะ เช่น ไม้ขนุน งาช้าง แกะเป็นชูชก ส่วนงาท่านจะนำเอางากำจัด งากำจาย งากระเด็น ซึ่งมีความเชื่อกันว่าเป็นของคงทนสิทธิ์ มีดีอยู่ในตัวไม่มีอะไรมาทำให้เสื่อมสลายได้ นอกจากกฎแห่งกรรม สิงห์ หรือ ราชสีห์ ก็เป็นเครื่องรางของขลังอีกชนิดหนึ่ง ที่ผู้ใหญ่ผู้ที่จะมีอำนาจให้ยั่งยืนก็ใฝ่หาสิงห์หลวงปู่รอด

ปัจจุบัน วัตถุมงคลของท่านไม่ว่าจะเป็นเหรียญหล่อ เหรียญปั๊ม เครื่องรางของขลัง วัตถุที่เป็นมงคล เช่น ผ้ายันต์ หรือตะกรุด หรือแผ่นยันต์หัวเสา ก็เป็นที่นิยมปรารถนาของศิษยานุศิษย์และบุคคลทั่วไป ที่มีความเชื่อว่าวัตถุมงคลของหลวงปู่รอด เมื่อได้มาแล้วพกพาอาราธนาติดตัวก็จะรอดพ้นจากภัยพิบัตินานัปการ รอดพ้นจากความยากความจน รอดพ้นจากโรคภัยไข้เจ็บ และที่สำคัญรอดพ้นจากความทุกข์ ทั้งกายและใจ ตรงกันข้ามจะดลบันดาลให้มีความสุข ความเจริญ มี อายุยืนยาวนานตลอดกาลนาน

ปกติ เหรียญแซยิดของหลวงปู่รอดที่หล่อเต็มองค์ มีให้ดูทั่วไปแต่เหรียญที่ตัดและแต่งมาเดิมๆ ที่เรียกว่าเหรียญจอบ หลวงปู่รอด นั้นหาชมได้ยาก สภาพเดิมๆ ที่ตัดและแต่งมาเดิมๆ นั้นราคาแพงกว่าเหรียญที่หล่อเต็มๆ เพราะจะหาชมสักเหรียญหนึ่งก็ยิ่งยาก มีตำนานจากคนเฒ่าคนแก่ที่ทันหลวงปู่รอด เล่าให้ฟังว่า เหรียญจอบ หรือ เหรียญพิเศษ ท่านจะมอบให้กับบุคคลสำคัญ และคนใกล้ชิดที่ช่วยเหลืออุปถัมภ์วัดมาตลอด

ฉะนั้นเหรียญจอบหลวงปู่รอด จึงพบเห็นได้น้อย เพราะการสร้างจำนวนไม่มาก พุทธคุณในด้านแคล้วคลาด คงกระพันชาตรี จะเด่นในเรื่องกฤตยาคมคงกระพันชาตรีสมบูรณ์แบบครบวงจรใน พระเกจิอาจารย์ครั้งโบราณจนถึงปัจจุบันกล่าวไว้ว่า บุคคลใดมีไว้ในครอบครองจะเป็นมงคล เป็นที่รักของคนดี เป็นที่เกรงกลัวสำหรับคนไม่ดี จะให้คุณกับผู้ที่ประพฤติดีปฏิบัติชอบ
หลวงปู่รอด พุทฺธสณฺโฑ : เทพเจ้าวาจาศักดิ์สิทธิ์ วัดบางน้ำวน ต.บางโทรัด อ.เมือง จ.สมุทรสาคร
พระเกจิอาจารย์ในอดีตที่เกิดในยุคเดียวกันของจังหวัดสมุทรสาคร คือ หลวงปู่รุ่ง วัดท่ากระบือ หลวงพ่อแง วัดเจริญสุขาราม และหลวงปู่รอด วัดบางน้ำวน โดยเฉพาะหลวงปู่รอด ได้รับฉายาว่า เทพเจ้าวาจาศักดิ์สิทธิ์
หลวงปู่รอด พุทฺธสณฺโฑ หรือพระครูรอด พุทฺธสณฺโฑ อดีตเจ้าอาวาสวัดบางน้ำวน เป็นพระเกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียงโด่งดังในอดีต มีพุทธาอาคม เช่น เมตตามหานิยม วิชาคงกระพันชาตรี วิชาทำธงกันฝน วิชาทำตะกรุด วิชาทำผ้ายันต์ บังไพร วิชาแพทย์แผนโบราณ
ท่านพำนักอยู่ที่วัดบางน้ำวน ตั้งอยู่ท้องที่ หมู่ที่ ๔ ต.บางโทรัด อ.เมือง จ.สมุทรสาคร มีที่ดินตั้งวัด จำนวน ๕๔ ไร่ ๑ งาน ๗๔ ตารางวา วัดนี้สร้างขึ้นประมาณพ.ศ. ๒๓๗๔
สถานที่วัดตั้งอยู่ใกล้กับถนนสายธนบุรี-ปากท่อ ก.ม. ที่ ๔๐ ออกจากกรุงเทพ ฯ อยู่ทางซ้ายมือ มีถนนเชื่อมต่อถึงวัด ประมาณ ๑,๖๐๐ เมตร ด้านหน้าวัดใกล้คลองซึ่งเป็นสามทางมาบรรจบกัน ทางหนึ่งคือลำน้ำแยกมาจากแม่น้ำท่าจีนไหลหักมุมเป็นคุ้งน้ำเข้ามาด้านหน้าวัด ซึ่งมีความกว้างประมาณ ๑๐๐ เมตร สายที่สองเชื่อมต่อกับคลองสุนัขหอนไปออกแม่น้ำแม่กลอง และสายที่สามเป็นคลองท่าแร้ง ซึ่งไหลมาบรรจบกันที่บริเวณหน้าวัดจนเกิดปรากฏการณ์ธรรมชาติคือ น้ำวน ชาวบ้านจึงนิยมเรียกวัดแห่งนี้ว่า วัดบางน้ำวน อาณาเขตด้านหน้าวัดทางทิศตะวันออกติดชายคลองกว้างประมาณ ๑๕๐ เมตร ซึ่งห่างจากวัดใหญ่บ้านบ่อและวัดใต้บ้านบ่อเป็นระยะทาง ๒ ก.ม. ด้านทิศตะวันตก ห่างจากวัดเกตุมดีศรีวรารามเป็นระยะทาง ๓ กม. ทิศใต้จรดชายคลองเชื่อมต่อสุนัขหอน และด้านทิศเหนือห่างจากถนนธนบุรี-ปากท่อ ๑,๖๐๐ เมตร การเดินทางไปวัดสะดวกสบาย
ปัจจุบัน พระใบฎีกาพงษ์ศักดิ์ ขนฺติพโล เป็นเจ้าอาวาสวัดบางน้ำวน และเป็นผู้รักษาการแทนเจ้าคณะตำบลบ้านบ่อ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสาคร ได้พัฒนาวัดสานต่อจากพระอธิการแค หลวงปู่รอด พุทฺธสณฺโฑ พระอธิการเชื่อม โชติปาโล พระอธิการบุญกรี ติสฺสวํโส พระครูสาครธีรคุณ (ประชุม ธีรปญฺโญ)
ทางวัดบางน้ำวนมีกิจกรรมเข้าค่ายพุทธบุตร อบรมเยาวชนของกรมคุมประพฤติ กระทรวงยุติธรรมและปฏิบัติธรรมของประชาชน
ชาติภูมิ ท่านเกิดวันพุธ เดือน ๓ ขึ้น ๓ ค่ำ ปีกุน พ.ศ.๒๔๐๖ ในสมัยรัชกาลที่ ๔ บิดาชื่อ นายทองดี มารดาชื่อ นางเกษม นามสกุล บุญส่ง ชาวรามัญ บ้านบางโทรัด
ชีวิตในวัยเยาว์ ในวัยเยาว์ ท่านเป็นเด็กขี้โรค อ่อนแอ ดามารดาจึงยกให้เป็นบุตรบุญธรรมพระอธิการแค ซึ่งเป็นเจ้าอาวาสวัดบางน้ำวนในขณะนั้น ตั้งแต่นั้นมา ท่านก็หายจากโรคภัย จึงขนานนามว่า “รอด”
บรรพชาและอุปสมบท
เมื่ออายุ ๑๒ ปี ท่านได้บรรพชาเป็นสามเณรและได้เริ่มเรียนวิชากับพระอธิการแค เป็นต้นมา จนกระทั่งอายุ ๒๐ ปี ได้อุปสมบท มีฉายาว่า “พุทฺธสณฺโฑ” โดยมีพระอธิการแค เป็นพระอุปัชฌาย์ มีพระอาจารย์แจ้ง เป็นพระกรรมวาจาจารย์ มีพระอาจารย์ปั้น เป็นพระอนุสาวนาจารย์

การศึกษา ท่านได้ศึกษาพระธรรมวินัย วิปัสสนากรรมฐาน และพุทธาคม เช่น เมตตามหานิยม วิชาคงกระพันชาตรี วิชาทำธงกันฝน วิชาทำตะกรุด วิชาทำผ้ายันต์ บังไพร วิชาแพทย์แผนโบราณ ภายหลังท่านได้ออกธุดงค์ ไปยังประเทศพม่าเพื่อศึกษาวิชาให้แก่กล้าเป็นเวลาหลายปี
คุณลักษณะพิเศษ
ท่านมีคุณลักษณะพิเศษหลายประการ ได้แก่
๑. ดวงตาท่านเป็นวาวเหมือนดังกงจักรอยู่ในตารูปกลม ใสดุจเพชรตาแมว ไม่มีใครกล้าจ้องหน้ากับท่านเพราะมีอำนาจซ่อนเร้นอยู่ในนัยน์ตา
๒. ท่านเป็นพระอุปัชฌาย์ให้การอุปสมบทให้ได้ แต่จะไม่ยอมรับลาสิกขากับผู้ใด หากจะลาสิกขาให้ไปลากับพระรูปอื่น เพราะถือว่า ท่านบวชของท่านมาจะไม่ทำลายจากพระสู่ฆราวาสเด็ดขาด
๓. ท่านจะไม่ยอมลอดของต่ำ เช่น ใครมานิมนต์กิจ ถ้าเป็นบ้าน ๒ ชั้น ท่านจะไม่ยอมลอดไต้ถุนบ้านขึ้นไปชั้นบน ต้องใช้บันไดพาดขึ้นทางหน้าต่าง
ปาฏิหาริย์ มีเรื่องเล่ากันมากมายเกี่ยวกับปาฏิหาริย์ของหลวงปู่ ได้แก่
๑. เมื่อถึงงานประจำปี ปีใดเกิดมีเมฆฝนทำท่าว่าจะตก ท่านจะเสกธงฝังตะกรุดแล้วให้ชักขึ้นเสา พอธงขึ้นสู่ยอดเสา กลุ่มเมฆก็เคลื่อนไปทางอื่น ทุกคนในงานเห็น ทำให้น่าอัศจรรย์
๒. เรื่องวาจาสิทธิ์ คราวหนึ่งมีคนมาพักที่วัด มียุงชุมมากขนาดมาเป็นกลุ่ม ๆ กัดจนนอนไม่ได้ หลวงปู่สั่งให้ไปนอนในอุโบสถ บอกไม่มียุง เมื่อเข้าไปนอนแล้ว ยุงไม่กัดแม้แต่ตัวเดียว น่าอัศจรรย์
๓. สิงห์กลายเป็นเสือ ป้องกันคนลักขโมยของหน้ากุฏิหลวงปู่ วันหนึ่งมีคนมาลักขโมยของที่หน้ากุฏิหลวงปู่ เห็นเสือเดินอยู่หน้ากุฏิเกิดความกลัวจึงหนีไป
๔. เรื่องกระสุนคด ครั้งหนึ่งมีเด็กวัดนัดชกต่อยกันที่ทุ่งนา หลวงปู่แผ่เมตตาจิตเห็น จึงยิงลูกกระสุนคดออกไปทางหน้าต่างไปโดนหัวเด็กที่มีเรื่องถึงกับหัวโน เด็ก ๆ ก็แยกกลับ
วัตถุมงคล
หลวงปู่ได้ทำวัตถุมงคลต่าง ๆ ได้แก่ ตะกรุด ผ้ายันต์ ธง แผ่นประทีป สิงห์ แหวน เหรียญหล่อสามเหลี่ยมรุ่นแซยิด
ชีวิตในบั้นปลาย เมื่อเข้าสู่วัยชรา ชาวบ้านขอร้องให้ท่านได้โปรดญาติโยมอยู่ประจำที่วัดบางน้ำวน ท่านได้ตั้งกฎระเบียบทำวัตรปฏิบัติธรรมของวัดบางน้ำวน จากสองทุ่มถึงสี่ทุ่ม จนเป็นกิจวัตรของวัดบางน้ำวน และมีการตีกลองระฆังย่ำค่ำ จนถึงปัจจุบัน

พระอุโบสถวัดบางน้ำวน

พระอุโบสถหลังใหม่
เดิมเป็นวัดเล็กๆ มีอายุราว ๑๗๗ ปี ชาวรามัญโยกย้ายมาอยู่ที่ตำบลนี้ จึงได้สร้างวัดขึ้นเป็นที่บำเพ็ญกุศล เจ้าอาวาสองค์แรก คือหลวงพ่อแค เจ้าอาวาสองค์ต่อมาคือ หลวงพ่อรอดถาวรวัตถุทั้งหลายเกิดขึ้นในสมัยของท่าน ตั้งแต่ พ.ศ. ๒๔๖๑-พ.ศ. ๒๔๗๓ ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อวันที่ ๒ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๓๒

ปรับปรุงข้อมูล ครั้งที่ ๑*
วัดบางน้ำวน ตั้งอยู่เลขที่ ๘๑ บ้านบางโทรัด หมู่ที่ ๔ ตำบลบางโทรัด อำเภอเมืองสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสาคร สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย ที่ดินตั้งวัดมีเนื้อที่ ๕๔ ไร่ ๑ งาน ๗๔ ตารางวา อาณาเขต ทิศเหนือ จดถนนสายธนบุรี – ปากท่อ ทิศใต้ จดคลองสุนัขหอน ทิศตะวันออก จดคลองบางน้ำวน ทิศตะวันตก จดที่เอกชน อาคารเสนาสนะ ประกอบด้วย อุโบสถ กว้าง ๑๒ เมตร ยาว ๑๙ เมตร สร้างเมื่อ พ.ศ. ๒๕๓๒ เป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก ศาลาการเปรียญ กว้าง ๑๔ เมตร ยาว ๑๙ เมตร เป็นอาคารไม้ หอสวดมนต์ กว้าง ๑๒ เมตร ยาว ๑๖ เมตร เป็นอาคารไม้ กุฏิสงฆ์ จำนวน ๑๑ หลัง เป็นอาคารไม้ ๗ หลัง ครึ่งตึกครึ่งไม้ ๔ หลัง วิหาร กว้าง ๑๒ เมตร ยาว ๑๒ เมตร เป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก สร้างเมื่อ พ.ศ. ๒๕๔๐ ศาลาอเนกประสงค์ กว้าง ๒๐ เมตร ยาว ๔๐ เมตร สร้างเมื่อ พ.ศ. ๒๕๔๑ เป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก ศาลาบำเพ็ญกุศล จำนวน ๑ หลัง สร้างด้วยคอนกรีตเสริมเหล็ก ๑ หลัง นอกจากนี้มีอาคารเสนาสนะต่างๆ ดังนี้ คือ หอระฆัง มณฑปที่ประดิษฐานรอยพระพุทธบาทจำลอง ศาลาท่าน้ำ ๓ หลัง และศาลาหน้ามณฑป ปูชนียวัตถุมี พระประธานประจำอุโบสถ มีนามว่าหลวงพ่อเจริญสุข
วัดบางน้ำวน ตั้งเมื่อ พ.ศ. ๒๓๕๗ ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อวันที่ ๒ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๓๒ เขตวิสุงคามสีมา กว้าง ๔๐ เมตร ยาว ๘๐ เมตร การบริหารและการปกครอง มีเจ้าอาวาสเท่าที่ทราบนาม คือ รูปที่ ๑ พระแค รูปที่ ๒ พระครูรอด รูปที่ ๓ พระเชื่อม โชติปาโล รูปที่ ๔ พระบุญศรี ติสสวโส รูปที่ ๕ พระครูสาครธีรคุณ รูปที่ ๖ พระใบฎีกาพงษ์ศักดิ์ ขนติพโล พ.ศ. ๒๕๓๘ –ปัจจุบัน การศึกษา มีโรงเรียนพระปริยัติธรรมแผนกธรรม เปิดสอนเมื่อ พ.ศ. ๒๕๐๓

พระอุโบสถหลังเก่า

อุโบสถเก่าวัดบางน้ำวน เดิมเป็นวัดเล็กๆ มีอายุราว 177 ปี ถาวรวัตถุทั้งหลายเกิดขึ้นในสมัยของหลวงพ่อรอด ตั้งแต่ พ.ศ.2461-พ.ศ. 2473

ประวัติหลวงปู่รอด (พุทธสัณโฑ)


ประวัติ หลวงปู่รอด พุทธสัณโฑ วัดบางน้ำวน จ.สมุทรสาคร

จังหวัดสมุทรสาคร เป็นจังหวัดที่มี
พระเกจิอาจารย์ชื่อดังหลายรูป เช่น หลวงปู่รุ่ง วัดท่ากระบือ หลวงพ่อเฮง วัดบ้านขอม เป็นต้น เป็นจังหวัดชายทะเล ตั้งอยู่ปากแม่น้ำท่าจีน หลักฐานทางประวัติศาสตร์กล่าวไว้ว่าในอดีตมีชุมชนใหญ่เรียกว่า "บ้านท่าจีน" ตั้งอยู่บริเวณปากอ่าวไทย ในรัชสมัยสมเด็จพระมหาจักรพรรดิแห่งกรุงศรีอยุธยา ปี 2099 พระองค์โปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ยกบ้านท่าจีนขึ้นเป็น เมืองสาครบุรี เพื่อเป็นหัวเมืองสำหรับเรียกระดมพลเวลาเกิดสงครามและเป็นเมืองด่านหน้า ป้องกันผู้รุกรานทางทะเล


ต่อมาในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เปลี่ยนชื่อเมืองสาครบุรีเป็นเมืองสมุทรสาคร และปี 2456 พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ทางราชการเปลี่ยนคำว่า "เมือง" เป็น "จังหวัด" ทั่วทุกแห่งในพระราชอาณาจักร เมืองสมุทรสาครจึงได้เปลี่ยนเป็น จังหวัดสมุทรสาคร ตั้งแต่บัดนั้นมาจนถึงทุกวันนี้

พระเกจิอาจารย์นามมงคล "หลวงปู่รอด" อีกรูปหนึ่งของจังหวัดสมุทรสาคร ที่อดกล่าวถึงไม่ได้ก็คือ "หลวงปู่รอด พุทธสัณโฑ" วัดบางน้ำวน ต.บางโทรัด อ.เมือง จ.สมุทรสาคร ท่านเกิดเมื่อปี 2416 มรณภาพเมื่อปี 2488 รวมสิริอายุ 72 ปี

หลวงปู่รอด เป็นพระเกจิอาจารย์ชื่อดังแห่งลุ่มน้ำแม่กลอง มีประวัติเรื่องราวอภินิหารกล่าวขวัญกันมามากมาย ท่านได้จัดสร้างรูปเหมือน เครื่องรางของขลังที่โด่งดังมีราคาบูชากันหลักแสน หลักล้าน อาทิ "เหรียญหล่อรูปเหมือนแซยิด" เมื่อปี 2477 ปัจจุบันสภาพสวยเดิม คมชัดดูง่าย สนนราคาเล่นหลักแสนหลักล้าน "เหรียญหล่อโบราณ" ที่จัดสร้างมีทั้ง "พิมพ์ยืดและพิมพ์ ต้อ" ปกติจะหล่อเต็มเขียนว่า "งานแซยิด พุทฺธสัณโฑ พ.ศ. ๒๔๗๗" หลังเรียบ หูในตัว เททองหล่อด้วยเนื้อสำริดมีส่วนผสมของทองโบราณ เงินโบราณ เครื่องใช้สำริด และแผ่นยันต์แผ่นจาร และเหรียญปั๊มแซยิด ปี 2477 เหรียญหล่อพิมพ์สี่เหลี่ยมกรรมการ เหรียญหล่อพิมพ์สามเหลี่ยม ยกมือเดียว พนมมือ เหรียญหล่อพิมพ์แจกแม่ครัว เหรียญปั๊มเสมา อัลปาก้า

นอกจาก นั้นยังมีเครื่องรางของขลัง เช่น ชูชก ถือว่าเป็นต้นตำหรับเป็นตำนานที่ได้นำไม้ที่เป็นมงคลมาแกะ เช่น ไม้ขนุน งาช้าง แกะเป็นชูชก ส่วนงาท่านจะนำเอางากำจัด งากำจาย งากระเด็น ซึ่งมีความเชื่อกันว่าเป็นของคงทนสิทธิ์ มีดีอยู่ในตัวไม่มีอะไรมาทำให้เสื่อมสลายได้ นอกจากกฎแห่งกรรม สิงห์ หรือ ราชสีห์ ก็เป็นเครื่องรางของขลังอีกชนิดหนึ่ง ที่ผู้ใหญ่ผู้ที่จะมีอำนาจให้ยั่งยืนก็ใฝ่หาสิงห์หลวงปู่รอด

ปัจจุบัน วัตถุมงคลของท่านไม่ว่าจะเป็นเหรียญหล่อ เหรียญปั๊ม เครื่องรางของขลัง วัตถุที่เป็นมงคล เช่น ผ้ายันต์ หรือตะกรุด หรือแผ่นยันต์หัวเสา ก็เป็นที่นิยมปรารถนาของศิษยานุศิษย์และบุคคลทั่วไป ที่มีความเชื่อว่าวัตถุมงคลของหลวงปู่รอด เมื่อได้มาแล้วพกพาอาราธนาติดตัวก็จะรอดพ้นจากภัยพิบัตินานัปการ รอดพ้นจากความยากความจน รอดพ้นจากโรคภัยไข้เจ็บ และที่สำคัญรอดพ้นจากความทุกข์ ทั้งกายและใจ ตรงกันข้ามจะดลบันดาลให้มีความสุข ความเจริญ มี อายุยืนยาวนานตลอดกาลนาน

ปกติ เหรียญแซยิดของหลวงปู่รอดที่หล่อเต็มองค์ มีให้ดูทั่วไปแต่เหรียญที่ตัดและแต่งมาเดิมๆ ที่เรียกว่าเหรียญจอบ หลวงปู่รอด นั้นหาชมได้ยาก สภาพเดิมๆ ที่ตัดและแต่งมาเดิมๆ นั้นราคาแพงกว่าเหรียญที่หล่อเต็มๆ เพราะจะหาชมสักเหรียญหนึ่งก็ยิ่งยาก มีตำนานจากคนเฒ่าคนแก่ที่ทันหลวงปู่รอด เล่าให้ฟังว่า เหรียญจอบ หรือ เหรียญพิเศษ ท่านจะมอบให้กับบุคคลสำคัญ และคนใกล้ชิดที่ช่วยเหลืออุปถัมภ์วัดมาตลอด

ฉะนั้นเหรียญจอบหลวงปู่รอด จึงพบเห็นได้น้อย เพราะการสร้างจำนวนไม่มาก พุทธคุณในด้านแคล้วคลาด คงกระพันชาตรี จะเด่นในเรื่องกฤตยาคมคงกระพันชาตรีสมบูรณ์แบบครบวงจรใน พระเกจิอาจารย์ครั้งโบราณจนถึงปัจจุบันกล่าวไว้ว่า บุคคลใดมีไว้ในครอบครองจะเป็นมงคล เป็นที่รักของคนดี เป็นที่เกรงกลัวสำหรับคนไม่ดี จะให้คุณกับผู้ที่ประพฤติดีปฏิบัติชอบ

ประวัติวัดบางน้ำวน

เดิมเป็นวัดเล็กๆ มีอายุราว ๑๗๗ ปี ชาวรามัญโยกย้ายมาอยู่ที่ตำบลนี้ จึงได้สร้างวัดขึ้นเป็นที่บำเพ็ญกุศล เจ้าอาวาสองค์แรก คือหลวงพ่อแค เจ้าอาวาสองค์ต่อมาคือ หลวงพ่อรอดถาวรวัตถุทั้งหลายเกิดขึ้นในสมัยของท่าน ตั้งแต่ พ.ศ. ๒๔๖๑-พ.ศ. ๒๔๗๓ ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อวันที่ ๒ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๓๒
ปรับปรุงข้อมูล ครั้งที่ ๑*
วัดบางน้ำวน ตั้งอยู่เลขที่ ๘๑ บ้านบางโทรัด หมู่ที่ ๔ ตำบลบางโทรัด อำเภอเมืองสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสาคร สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย ที่ดินตั้งวัดมีเนื้อที่ ๕๔ ไร่ ๑ งาน ๗๔ ตารางวา อาณาเขต ทิศเหนือ จดถนนสายธนบุรี – ปากท่อ ทิศใต้ จดคลองสุนัขหอน ทิศตะวันออก จดคลองบางน้ำวน ทิศตะวันตก จดที่เอกชน อาคารเสนาสนะ ประกอบด้วย อุโบสถ กว้าง ๑๒ เมตร ยาว ๑๙ เมตร สร้างเมื่อ พ.ศ. ๒๕๓๒ เป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก ศาลาการเปรียญ กว้าง ๑๔ เมตร ยาว ๑๙ เมตร เป็นอาคารไม้ หอสวดมนต์ กว้าง ๑๒ เมตร ยาว ๑๖ เมตร เป็นอาคารไม้ กุฏิสงฆ์ จำนวน ๑๑ หลัง เป็นอาคารไม้ ๗ หลัง ครึ่งตึกครึ่งไม้ ๔ หลัง วิหาร กว้าง ๑๒ เมตร ยาว ๑๒ เมตร เป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก สร้างเมื่อ พ.ศ. ๒๕๔๐ ศาลาอเนกประสงค์ กว้าง ๒๐ เมตร ยาว ๔๐ เมตร สร้างเมื่อ พ.ศ. ๒๕๔๑ เป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก ศาลาบำเพ็ญกุศล จำนวน ๑ หลัง สร้างด้วยคอนกรีตเสริมเหล็ก ๑ หลัง นอกจากนี้มีอาคารเสนาสนะต่างๆ ดังนี้ คือ หอระฆัง มณฑปที่ประดิษฐานรอยพระพุทธบาทจำลอง ศาลาท่าน้ำ ๓ หลัง และศาลาหน้ามณฑป ปูชนียวัตถุมี พระประธานประจำอุโบสถ มีนามว่าหลวงพ่อเจริญสุข
วัดบางน้ำวน ตั้งเมื่อ พ.ศ. ๒๓๕๗ ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อวันที่ ๒ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๓๒ เขตวิสุงคามสีมา กว้าง ๔๐ เมตร ยาว ๘๐ เมตร การบริหารและการปกครอง มีเจ้าอาวาสเท่าที่ทราบนาม คือ รูปที่ ๑ พระแค รูปที่ ๒ พระครูรอด รูปที่ ๓ พระเชื่อม โชติปาโล รูปที่ ๔ พระบุญศรี ติสสวโส รูปที่ ๕ พระครูสาครธีรคุณ รูปที่ ๖ พระใบฎีกาพงษ์ศักดิ์ ขนติพโล พ.ศ. ๒๕๓๘ –ปัจจุบัน การศึกษา มีโรงเรียนพระปริยัติธรรมแผนกธรรม เปิดสอนเมื่อ พ.ศ. ๒๕๐๓